ไข่พะโล้สูตรโบราณ


ไข่พะโล้สูตรโบราณ


   ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ไข่พะโล้สูตรโบราณ


 ไข่พะโล้เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดคลาสสิคที่กินเมื่อไหร่ก็อร่อย ยิ่งเก็บนานยิ่งเข้าเนื้อ ยิ่งอร่อย ถือเป็นเมนูครอบครัวที่กินกันได้ทุกเพศทุกวัยและเป็นเมนูที่ทำให้คิดถึงวัยเยาว์ด้วยค่ะ เด็กๆส่วนใหญ่ชอบกินไข่พะโล้ ^_^ เมนูทำง่ายมากๆค่ะ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีผงพะโล้สำเร็จรูปที่พร้อมปรุงมาให้ยิ่งง่ายเข้าไปอีก แต่หนึ่งชอบที่จะทำ “ไข่พะโล้สูตรโบราณ” สูตรนี้มากกว่าเพราะความเข้มข้นความอร่อยต่างจากที่ใช้ผงพะโล้ทำจริงๆนะ สูตรนี้หนึ่งทำบ่อยมากๆเป็นสูตรประจำบ้านไปแล้วมีหลายเวอร์ชันตั้งแต่เข้มมาก เข้มน้อย ทำครั้งแรกสมัยอยู่ไกลบ้านอยากกินไข่พะโล้เสิร์ชกูเกิ้ลไปเจอสูตรของคุณหมูแดงครัวไกลบ้าน เป็นไข่พะโล้ที่ไม่พึ่งผงพะโล้และซีอิ๊วดำ หนึ่งขอขอบคุณคุณหมูแดงสำหรับสูตรอร่อยๆแบบนี้นะคะ

สูตรการทำไข่พะโล้โบราณ

  • ไข่เป็ด 6 ฟอง (ไข่เป็ดไข่แดงเยอะกว่ากินแล้วอร่อยกว่าแต่ใช้ไข่ไก่แทนได้)
  • เต้าหู้ (หลังๆไม่ค่อยได้ใส่เลยค่ะ)
  • สามเกลอโขลกละเอียดประมาณ 1 ชต (รากผักชี 2-3 ราก + กระเทียมหัวใหญ่ 2-3 กลีบ + พริกไทย 1/4 ช้อนชา)
  • น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วยพูนๆ-1/2 ถ้วย
  • เกลือ 2 1/4 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • อบเชย 2 ก้าน
  • โป๊ยกั๊ก 3-4 ดอก
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย

  วิธีทำ 

1. ต้มไข่ ไข่ควรเป็นไข่ที่อุณหภูมิห้องนะคะ ถ้าแช่ตู้เย็นควรนำออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องสักระยะก่อนต้ม ใส่เกลือนิดหน่อยต้มด้วยไฟแรงประมาณ 10 นาทีแล้วยกลงจากเตา เอาไข่ออกมาแช่น้ำให้เย็นแล้วปอกเปลือกแล้วพักไว้

2. โขลก 3 เกลอให้ละเอียด ต้นฉบับโขลกได้ละเอียดมากๆแต่หนึ่งโขลกได้ไม่ละเอียดเท่า(รูปที่ลงรีวิว หนึ่งอยู่ 9xm ตอนนั้นยังไม่มีครกอิอิ เลยใช้วิชามาร) ในภาพเป็นการโขลกแบบไม่ละเอียดนะคะ อย่าเอาเยี่ยงอย่าง อิอิ พยายามให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะไม่งั้นมันจะลอยละล่องในน้ำพะโล้ดูไม่สวยงามและไม่น่ากินค่ะ
 
3.ตั้งกระทะ(หนึ่งใช้หม้อเลย)ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะผัด 3 เกลอด้วยไฟปานกลางจนหอม ใส่น้ำตาลปี้บลงไปผัดและเคี่ยวจนน้ำตาลสีเข้มจัดด้วยไฟปานกลาง สีเข้มของพะโล้ได้จากสีน้ำตาลที่เราเคี่ยวนี่เองค่ะ ช่วงนี้อย่าทิ้งเตาไปไหนนะคะคอยจับตาให้ดีอย่าให้ไหม้ เมื่อได้สีน้ำตาลเข้มจัดอย่างที่ต้องการใส่หมูสามชั้นลงไปผัดแค่พอตึงๆ

 ใส่น้ำและไข่ลงไป ตามด้วยก้านอบเชยและดอกโป๊ยกั๊ก ปรุงรสด้วยเกลือ เวลาปรุงค่อยๆใส่ทีละ 1/2 ชชแล้วชิมนะคะ เพราะถ้าเค็มแล้วแก้ยาก พอน้ำเดือดลดไฟลงเป็นไฟอ่อนเคี่ยวต่ออย่างน้อย 45 นาที(ยิ่ง้คียวนานยิ่งอร่อย)จนหมูนุ่มระหว่างนี้ให้คอยช้อนฟองออก




Tips สำหรับมือใหม่

  เนื่องจากมีเพื่อนที่เพิ่งหัดทำอาหารลองทำสูตรนี้แล้วถามมาว่าทำไมทำตามแล้วมันถึงจืดมาก รสหวานโดด หนึ่งมีข้อแนะนำให้ค่ะ1. สูตรอาหารไทยบางสูตรไม่มีการตวง วัดให้เพราะคนที่ทำอาหารเป็นจะใช้การกะ การประมาณและแต่ละคนชอบรสอาหารที่ต่างกันไป นอกจากนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้แม้ในสูตรจะตวงมาให้แต่ผลที่ออกมาอาจจะได้ไม่เหมือนต้นฉบับเช่น ยี่ห้อของเครื่องปรุง (น้ำปลา น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว ที่ต่างกันความเค็มต่างกัน หรือแม้แต่เกลือ เกลือไอโอดีและดอกเกลือตวงเท่ากันแต่เค็มไม่เท่ากันเป็นต้น ) มือใหม่อาจจะงงๆไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ในสูตรหนึ่งตวงวัดไว้ให้เป็นการประมาณนะคะ แนะนำให้ค่อยๆปรุงและชิม โดยเฉพาะการเติมเกลือควรค่อยๆเติมครั้งละ 1/2หรือ 1 ชช 2. ตอนเคี่ยวน้ำตาล เคี่ยวให้ได้สีเข้มที่สุด (น้ำตาลเข้มสุดๆ)ถ้าเคี่ยวน้ำตาลสีอ่อนเกินไปน้ำพะโล้สีจะซีด (สามารถเติมซีอิ๋วดำแก้ได้) แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเคี่ยวให้สีเข้มนอกจากจะได้น้ำพะโล้สีเข้มแล้ว รสยังอร่อยกว่าด้วยค่ะ ถ้าชอบสามารถเหยาะซีอิ๋วขาวได้นิดหน่อย ถือเป็นการปรับสูตรในแบบที่ชอบ 3. ถ้าไม่มีก้านอบเชยและดอกโป๊ยกั๊กสามารถใส่ผงพะโล้แทนได้ 1-2 ช้อนชา หนึ่งใส่ตอนเติมน้ำและปรุงรสแล้ว ออกมาอร่อยเหมือนกันค่ะ 4. ไข่พะโล้ต้องตุ๋นต่ออย่างน้อย 45 นาทีให้เนื้อหมูนิ่มและให้น้ำพะโล้เข้มข้นและเข้าเนื้อไข่นะคะ ไม่เช่นนั้นจะได้ไข่พะโล้รสจืดเหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง 5. ถ้าไม่อยากใส่หมูสามชิ้น อยากใส่ไก่แนะนำให้เป็นส่วนปีกเพราะตุ๋นนานๆแล้วเนื้อนุ่ม อร่อย ส่วนอกและตะโพกจะแห้งไม่อร่อย ถ้าไม่อยากใส่เนื้อสัตว์เลยใส่แต่เต้าหู้อย่างเดียวก็ได้ค่ะ แต่รสอร่อยน้อยกว่าใส่เนื้อสัตว์นิดหน่อย





 
เมื่อเพื่อนๆได้รู้จักขั้นตอนวิธีการทำพะโล้สูตรโบราณแล้ว เพื่อนๆก็อย่าลืมเอาไปลองทำที่บ้านดูน่ะค่ะ 









                                                       


                                  


























ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อ็อกปลา

หมกฮวก

ก้อยกุ้ง