อาหารพื้นบ้านล้านนา

หมกฮวก ในช่วงต้นฝนจะเป็นช่วงฤดูกาลของการเริ่มทำนา ชาวนาจะพากันลงนาไถฮุด(ไถครั้งแรกเพื่อตากดิน) เมื่อมีฝนตกลงมาจะมีน้ำขังอยู่ตามรอยไถในทุ่งนานั่นเอง บรรดากบเขียดทั้งหลายที่รอดจากการถูกจับไปเป็นอาหาร ก็จะพากันวางไข่ไว้ในแหล่งน้ำต่างๆ หรือบางตัวโชคดีหน่อยก็มีโอกาสขยายเผ่าพันธุ์ก่อนที่จะถูกจับกิน คราวนี้หล่ะก็ได้เวลาที่บรรดาเราชาวอีสานทั้งหลายจะได้อร่อยลิ้นกับเมนูเด็ดที่ไม่ได้จะหากินกันง่ายๆนั่นคือ"หมกฮวก" จะได้กินก็เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นนะไม่ได้มีนอกฤดูเหมือนผลไม้หรอก แบบนี้แหละที่ผมชอบนักหนา  เมื่อถึงช่วงที่ ลูกกบ ลูกเขียด ออกจากไข่กลายเป็น "ฮวก"(ลูกอ๊อด) โตได้ขนาดแล้ว บรรดาเราจะเริงร่าเตรียม สวิงกับตะข้อง ที่เป็นอุปกรณ์หากินคู่ชีพฉวยได้ตรงลงไปยังทุ่งนาทันที เพื่อซ้อนเอาลูกฮวกที่มีอยู่ดาดดื่นในทุ่ง ลูกฮวกมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับว่ากบหรือเขียดที่ไข่ไว้  ผมจะเลือกเอาเฉพาะตัวโตๆ หรือเฉพาะฮวกกบ(เพราะมันอร่อยกว่า) เมื่อได้ลูกฮวกพอสมควรแล้ว ก็พากันกลับบ้าน อ้อบางทีนะหากโชคดีอาจได้แมงดานาไปให้แม่ทำป่นปลาใส่แมงดา(น้ำพริกปลาร้าใส่แมงดา)ให้อีพ่อนำ แม่จะนำเอาล

          สวัสดีค่ะทุกคนมาแล้วค่ะ เมื่อวานส่งข้าวหมกไก่มาให้ทาน วันนี้ส่งซุปหางวัวมาให้ซดคล่องคอกันด้วยค่ะ ขาดไปได้อย่างไร ทานข้าวหมกไก่ก็ต้องมีซุปหางวัวเป็นของคู่กัน  ตาต้มหางวัวแบบ ต้มน้ำทิ้ง 2 ครั้ง รับรองค่ะ ไม่มีเหม็นคาวและหอมน้ำซุปมากเลยค่ะ หากใครไม่ทานซุปหางวัว เปลี่ยนเป็นซุปเนื้อก็อร่อยนะคะ เป็นเนื้อน่องลายก็คงอร่อยไม่แพ้กันค่ะ ใครชอบดูแบบวิดีโอเชิญกดลงไปด้านล่างเช่นเคยนะคะ มีทั้งภาพ มีทั้งเสียงคนทำค่ะ ไปค่ะ ไปดูส่วนผสมและเครื่องปรุงกันก่อน ส่วนผสม ซุปหางวัว           • หางวัว 1 หาง           • น้ำเปล่า (สำหรับต้ม 2 ครั้ง)           • ตะไคร้ (หั่นท่อน) 5 ต้น           • ใบมะกรูด 20 ใบ           • น้ำเปล่า 2 ลิตร (สำหรับน้ำซุป)           • หอมใหญ่ (หั่นสี่เหลี่ยมใหญ่) 3 หัว           • กระเทียม 10 กลีบ           • มะเขือเทศเล็ก 1 ถ้วย           • ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ           • ขิงซอย 1/2 ถ้วย           • มะเขือเทศใหญ่ (ผ่าสี่ส่วน) 4 ลูก           • อบเชย 3 ก้าน           • พริกไทย 2 ช้อนโต๊ะ           • เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ           • มันฝรั่ง (หั่นสี่เหลี่ยมใหญ่) 1 หัว  

ซุปมะเขือ :: ส่วนผสมและเครื่องปรุง :: - มะเขือเปราะลูกโต 5 ลูก - ปลาทูนึ่งขนาดกลาง  1 ตัว - หอมแดงไทย 5 หัว - กระเทียมไทย 1 หัว - พริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่ 13 เม็ด - น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ถ้วยตวง . - น้ำปลาดี - ต้นหอม 2 ต้น - ผักชี 1 ต้น - สะระแหน่ 5 กิ่ง - น้ำมันสำหรับทอดปลาทู ป.ล. ปริมาณที่ทำเสร็จแล้ว ได้เท่ากับ 2 ถ้วยในรูปค่ะ หากใครกินน้อย กินคนเดียว ลดปริมาณส่วนผสมและเครื่องปรุงทุกอย่างลงครึ่งนึงก็ได้นะคะ :: วิธีทำ :: อันดับแรกเลยเราก็มาจัดการมะเขือเปราะกันก่อนนะคะ  ... สำหรับมะเขือเปราะที่พิมใช้ในวันนี้เนี่ย อาจจะเหี่ยวไปนิดนึงเพราะว่าซื้อมาตั้งแต่เมื่อ 4 วันที่แล้ว แต่ว่ามันก็ยังใช้ได้นะคะ ^__^  ก็ให้เราเอามะเขือเนี่ยไปตัดขั้วออก ล้างให้สะอาด แล้วพักไว้ก่อนค่ะ จากนั้นก็เทน้ำสะอาดใส่หม้อใบย่อม ๆ ใบนึง  เอาหม้อไปตั้งบนเตา เปิดไฟกลาง รอจนน้ำเดือดจัดก็เทมะเขือเปราะที่เราตัดขั้วแล้วใส่ลงไป  หลังจากนั้นก็ต้มไปจนสุกนิ่ม  พิมใช้เวลาราว ๆ  20 นาที พอมะเขือสุกนิ่มดี ก็ตักขึ้นแช่น้ำเย็นไว้จนคลายร้อน ก็ตักแต่มะเขือขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ ต่อมาก็หันไปต้มน้ำปลาร้านะคะ  ... ซ

                                                                                     แกงหอยขม        :: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::    - หัวกะทิ    - หางกะทิ   - พริกแกงคั่วตำหยาบๆ   - หอยขม ตัดก้นแล้ว ล้างสะอาด   - ปลาช่อนย่างพอสุก  แกะเอาแต่เนื้อ โขลกให้แหลก   - ชะอมเด็ดเป็นท่อนสั้น   - ใบชะพลุหั่นฝอย   - เกลือป่น   - น้ำปลา                                                                                                                                                                           : วิธีทำโดยคร่าวๆ ::   - ตั้งหัวกะทิ 1 ส่วน ให้เดือด เคี่ยวจนแตกมันดี ก็ใส่พริกแกงลงไปผัดจนแตกมัน   - พอพริกแกงแตกมันดี (ไม่ต้องมาก)  ก็ใส่เนื้อปลาย่างลงไปผัดกับพริกแกง   - ผัดพอเข้ากัน ปลาย่างไม่เป็นก้อน ก็เติมหางกะทิลงไป   - พอกะทิเดือด ใส่หอยขม   - ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา  .. รอเดือด ชิมรสชาติ ตามชอบ   - ใส่ใบชะพู ชะอมเด็ดลงไป - รอจนหอยสุก ราดด้วยหัวกะทิที่เหลือ - รอให้เดือดอีกที เป็นอันว่าเราทำแกงหอยขมเสร็จแล้ว ก็ปิดไฟเตา ตักใส่ชามได้เลยค่ะ อาหารพื้นบ้านรับรอ

แกงเห็ด                                                                                                                      เห็ด วันนี้ได้เห็ดหอมสด เห็ดชิเมจิ ส่วนเจ้าเห็ดสีขาวๆไม่แน่ใจว่าชื่ออะไรค่ะ น้ำย่านาง ตะไคร้ทุบ หั่นท่อน พริกสด 3-4 เม็ด ใบแมงลัก ใบส้มลม เกลือนิดหน่อย น้ำปลาร้า น้ำปลา วิธีทำ ต้มน้ำย่านางกับพริกบุบหยาบ และตะไคร้ อย่าใช้น้ำย่านางเยอะเพราะน้ำจากเห็ดจะออกมาหลังจากแกงได้สักครู่ เมื่อน้ำเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า เกลือหนึ่งหยิบ และน้ำปลา ใส่เห็ดลงไป รอให้สุก เห็ดสุกแล้วใส่ใบส้มลม ถ้ามีฟองคอบช้อนฟองออก ปิดเตา ใส่ใบแมงลัก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เป็นอาหารที่หาง่านในท้องถิ่นไม่เสียเงินละเราสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกด้วยลองเอาไปทำกันดูน่ะคร้รับรองว่าอร่อยถูกปากคนอีสานแน่นนอนคร้ขอบคุนคร้                   ที่มา https://oomnoyoslo.wordpress.com      

ก้อยกุ้ง สูตรอาหารอีสาน ฉบับต้นตำหรับ พ้อกันทางอีสานร้อยแปดคือเก่าเหมือนเดิมน้อครับพี่น้อง มื้อนี้ข่อยสิพาไป “ ก้อยกุ้ง ” มาเบิ่งกันว่าวิธีทำก้อยกุ้งนั้นเขาทำแบบไหน ก้อยกุ้งคืออะไร แล้วต้นตำรับก้อยกุ้งแบบอีสานบ้านเฮานั้นเป็นแบบไหน มาเบิ่งกันจร้ กุ้งฝอย ก้อยกุ้ง ในแบบฉบับต้นตำรับของอีสานบ้านเฮานั่นจร้พี่น้อง ต้องมีส่วนประกอบหลักคือ กุ้งฝอยตัวเป็นๆ หรือที่เราเรียกว่า “ กุ้งเต้น ” นั่นแหละจร้ กว่าจะได้มาซึ่งกุ้งเต้นก็ต้องไปหาส่อน หรือ ช้อนเอาตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ต้องหาแหล่งน้ำที่สะอาด กุ้งจะได้ตัวใหญ่ ตัวสะอาด น่ารัปประทาน กุ้งเต้น ส่วนประกอบในการทำก้อยกุ้ง : 1.กุ้งฝอยสด ๆ เป็น ๆ 2. หอมแดง ซอยบาง ๆ 3. พริกขี้หนูสดหั่นเป็นแว่นบาง 4. พริกป่น 5. ตะไคร้ซอย (ตัดที่แข็งออก) 6. ข้าวคั่ว (คั่วใหม่ ๆ ) โขกละเอียด 7. น้ำปลา 8. ใบสะระแหน่(บางท้องถิ่น เรียกใบหูแมว ใบหอมมน) กลิ่นฉุน เด็ดเป็นใบ ๆ ไม่หั่น จะช้ำ 9. ต้นหอม 10. ใบผักชีฝรั่ง 11. ผักชีจีน 12. ใบมะกรูดหั่นฝอย 13. มะนาว, มะกอก(มะกอกที่ใส่ส้มตำ) 14. ผักแพว ภาษาถิ่นภายัพเรียกผักไผ่ ส่วนประกอบก้อยกุ้ง วิธีทำก้อยกุ้ง : 1